เราจะนำเงินคุณที่บริจาค 100% ไปช่วยในการขจัดคาร์บอน โครงการขจัดคาร์บอนได้รับการจัดหาและตรวจสอบโดย Frontier ซึ่งเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการพาณิชย์ภายในของ Stripe
โครงการริเริ่มด้านสภาพอากาศของ Stripe เปรียบเสมือนของขวัญ เนื่องจากจะช่วยขจัดอุปสรรคต่างๆ ที่ขัดขวางการดำเนินการด้วยเจตนาที่ดี โปรแกรมนี้ช่วยให้ทำสิ่งที่ถูกต้องได้ง่ายดายและสร้างคุณค่าได้ และเราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมนี้
เราจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง แต่วิธีการที่ต่างคนต่างทำนั้นอาจได้ผลเพียงระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นทีมเล็กๆ เราจึงทุ่มเททำงานโดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์หลัก และยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ใช้ Stripe Climate ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Stripe Climate คือโซลูชันที่ดีที่สุดของ Stripe ซึ่งทำให้เรื่องที่มีความซับซ้อนสูงกลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ไม่ยาก และช่วยให้เราทุกคนมีส่วนร่วมได้ด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด
หลังจากได้อ่านคำมั่นสัญญาของ Stripe ในการกำจัดคาร์บอนในขั้นแรก เราก็เกิดไอเดียขึ้นทันที ในฐานะทีมนักอุตุนิยมวิทยา เรามีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว ดังนั้นการสมัครเข้าร่วมสนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับสภาพภูมิอากาศจึงเป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดมากเลย
เราต้องจำกัดการเพิ่มอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกไม่ให้สูงกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมเกิน 1.5°C เพื่อป้องกันผลกระทบของภัยพิบัติจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ ซึ่งหมายความว่าต้องลดการปล่อย CO₂ ทั่วโลกจาก 40 กิกะตันต่อปีในปี 2018 ให้เหลือศูนย์ภายในปี 2050
หากต้องการบรรลุเป้าหมายนี้ ทั่วโลกต้องช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนใหม่ในอากาศ และต้องกำจัดก๊าซคาร์บอนที่อยู่ในชั้นบรรยากาศด้วย
วิธีขจัดคาร์บอนในปัจจุบันยังคงมีความจำเป็น เช่น การปลูกป่าและการรักษาหน้าดิน แต่การใช้วิธีเหล่านี้เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาในวงกว้าง ส่วนเทคโนโลยีการขจัดคาร์บอนใหม่ๆ ซึ่งมีแนวโน้มครอบคลุมในวงกว้างและใช้ต้นทุนต่ำภายในปี 2050 ยังต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาเนื่องจากยังไม่สมบูรณ์
ทุกวันนี้โซลูชันการขจัดคาร์บอนต้องเผชิญกับปัญหาที่ยังหาทางออกไม่ได้ และยังมีราคาสูงเนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เพิ่งเกิดขึ้นมาใหม่ ดังนั้นจึงดึงดูดลูกค้าในวงกว้างได้ไม่มากนัก ซึ่งหากไม่มีการใช้งานในอย่างแพร่หลาย ก็จะลดต้นทุนในการผลิตให้ต่ำลงไม่ได้
ผู้สนับสนุนระยะแรกสามารถช่วยลดต้นทุนของเทคโนโลยีขจัดคาร์บอนและเพิ่มยอดใช้งานได้ การศึกษาเส้นโค้งการเรียนรู้และเส้นโค้งประสบการณ์สำหรับกระบวนการผลิตชี้ให้เห็นหลายครั้งว่าการใช้งานและขอบเขตที่กว้างช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนา ซึ่งปรากฏการณ์นี้ได้รับการพิสูจน์มาแล้วในการลำดับ DNA, ความจุของฮาร์ดไดรฟ์ และพลังงานแสงอาทิตย์
แนวคิดนี้ก่อให้เกิดการซื้อครั้งแรกของ Stripe และในท้ายที่สุดก็นำเราไปสู่การเปิดตัว Frontier ซึ่งเป็นสัญญาการซื้อล่วงหน้า (AMC) สำหรับการซื้อการขจัดคาร์บอน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งสัญญาณด้านความต้องการที่แข็งแกร่งไปสู่นักวิจัย ผู้ประกอบการ และนักลงทุนว่าตลาดสำหรับเทคโนโลยีเหล่านี้กำลังเติบโต เรามีความเชื่อว่าเราสามารถเปลี่ยนทิศทางของอุตสาหกรรมนี้และเพิ่มโอกาสที่โลกของเราจะมีโซลูชันต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อป้องกันผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
Stripe Climate ทำงานร่วมกับ Frontier ซึ่งเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และการพาณิชย์ภายในของ Stripe ที่มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีการขจัดคาร์บอนโดยเฉพาะเพื่อซื้อการขจัดคาร์บอนถาวร Frontier มีที่ปรึกษาเป็นกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ชั้นนำจากหลากหลายสาขาวิชาในการประเมินเทคโนโลยีการขจัดคาร์บอนที่น่าจะให้ประสิทธิภาพสูงสุด สำรวจพอร์ตโฟลิโอโครงการของเราที่ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อ่านเกณฑ์ที่เราใช้คัดเลือกเทคโนโลยีดังกล่าว หรือดูใบสมัครเข้าร่วมสำหรับโครงการแบบโอเพนซอร์ส
Arbor กำลังพัฒนาระบบแบบแยกส่วนได้ที่มีขนาดกะทัดรัดเพื่อใช้ขจัดและกักเก็บคาร์บอนจากชีวมวล (BiCRS) ระบบนี้ขจัดคาร์บอนโดยการแปรสภาพของเสียชีวมวลให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ไฟฟ้า แล้วกักเก็บ CO₂ ไว้ใต้ดินอย่างถาวร เทคโนโลยีของบริษัทผสานเตาก๊าซซิไฟเออร์ที่ทำงานได้อย่างยืดหยุ่นกับชีวมวลหลายประเภทเข้ากับกังหันล้ำสมัยที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางไฟฟ้าในระดับสูงสุด โดยระบบแยกส่วนของ Arbor นำไปใช้งานได้รวดเร็วและออกแบบมาให้มีต้นทุนการผลิตน้อยกว่าวิธีการอื่นๆ อย่างมาก
พลังงานชีวภาพที่มีคุณสมบัติการดักจับและกักเก็บคาร์บอนAcra ดักจับ CO₂ ในชั้นบรรยากาศมาเปลี่ยนสภาพให้กลายเป็นหิน โครงการทำงานร่วมกับผู้ผลิตโลหะที่มีความสำคัญเพื่อเปลี่ยนของเสียจากเหมืองแร่ให้กลายเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนขนาดใหญ่ และนำยานแบบขับเคลื่อนอัตโนมัติมาใช้กับกระบวนการเปลี่ยนคาร์บอนเป็นแร่ธาตุ ซึ่งเป็นกระบวนการตามธรรมชาติในการกักเก็บ CO₂ อย่างถาวรในรูปของแบบแร่คาร์บอเนตชนิดใหม่ นอกจากนี้ การสร้างระบบที่ทำงานภายในเหมืองแร่โดยตรงยังช่วยให้ Carbin Minerals หลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายและการปล่อยคาร์บอนจากการขนย้ายวัสดุไปยังโรงงานแปรรูปอีกด้วย
การเร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุโดยใช้ผงหินCaptura ใช้พลังของมหาสมุทรมาสร้างกระบวนการกำจัดในแบบที่ขยายขอบเขตการดำเนินงานได้ บริษัทออกแบบกระบวนการทางไฟฟ้าเคมีที่จะแยกกรดและเบสออกจากน้ำทะเล จากนั้นกรดจะถูกนำไปขจัด CO₂ ที่อยู่ในน้ำทะเลและอัดฉีดลงไปยังแหล่งกักเก็บถาวรใต้พื้นดิน ส่วนเบสจะนำมาใช้บำบัดน้ำทะเลส่วนที่เหลืออย่างปลอดภัยก่อนจะปล่อยกลับคืนสู่มหาสมุทร หลังจากนั้น มหาสมุทรจะดึง CO₂ จากบรรยากาศมาเก็บไว้ในน้ำทะเลต่อไป ปัจจุบัน Captura กำลังพัฒนาวัสดุเยื่อเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางไฟฟ้าและลดค่าใช้จ่ายในการขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
การดักจับคาร์บอนในน้ำทะเลโดยตรงCarbon To Stone กำลังพัฒนาแนวทางใหม่ในการดักจับคาร์บอนจากอากาศโดยตรง โดยใช้วิธีการทำปฏิกิริยากับของเสียที่มีคุณสมบัติเป็นด่างเพื่อสร้างตัวทำละลายที่จะเข้าไปจับกับ CO₂ ทีมงานลดการใช้พลังงานลงได้อย่างมากและประหยัดต้นทุนตามไปด้วยเมื่อใช้วิธีการเปลี่ยนของเสียต้นทุนต่ำที่มีคุณสมบัติเป็นด่าง เช่น ตะกรันเหล็ก ให้เป็นแร่ธาตุโดยตรงแทนการใช้วิธีแบบเก่ามาสร้างตัวทำละลายซึ่งต้องอาศัยการเปลี่ยนแปลงระดับความร้อนหรือแรงดัน ยิ่งไปกว่านั้น CO₂ ยังกักเก็บไว้ได้อย่างยาวนานในรูปของวัสดุคาร์บอเนตที่นำไปใช้เป็นซีเมนต์ทางเลือกได้
การดักจับคาร์บอนในอากาศโดยตรงCella เพิ่มตัวเลือกในการกักเก็บคาร์บอนอย่างปลอดภัยและมั่นคงด้วยกระบวนการเปลี่ยนแร่ธาตุ ในธรรมชาติ CO₂ จะเปลี่ยนสภาพกลายเป็นแร่ธาตุของแข็งอยู่แล้ว ซึ่งโครงการนี้เร่งกระบวนการดังกล่าวโดยการฉีด CO₂ เข้าไปในหินภูเขาไฟร่วมกับน้ำเกลือและน้ำเค็มร้อนจากใต้พิภพที่เหลือทิ้งด้วยวิธีการที่ลดต้นทุนและสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เทคโนโลยีของ Cella นำความร้อนใต้พิภพที่มีคาร์บอนต่ำมาใช้ และสามารถใช้ร่วมกับวิธีการดักจับคาร์บอนได้หลายวิธีด้วยกัน
การกักเก็บ - การเปลี่ยนแร่ธาตุทางธรณีวิทยาCREW กำลังสร้างเครื่องปฏิกรณ์เฉพาะทางเพื่อใช้เร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุในธรรมชาติ ระบบดังกล่าวต้องใช้ภาชนะและจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อเร่งการสลายตัวของแร่อัลคาไลน์ น้ำที่ปล่อยออกมาจะกักเก็บ CO₂ จากน้ำเสียไว้อย่างปลอดภัยและถาวรในรูปของไอออนไบคาร์บอเนตในมหาสมุทร ระบบของ CREW ช่วยให้วัดปริมาณ CO₂ ที่ขจัดออกไปได้ง่ายขึ้น และทำปฏิกิริยากับ CO₂ จากแหล่งต่างๆ ได้ รวมถึงการดักจับจากอากาศโดยตรงและระบบชีวมวล ซึ่งช่วยยกระดับการทำงานในระดับที่ใหญ่ขึ้น
การเร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุโดยใช้ผงหินInplanet เร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุในธรรมชาติเพื่อกักเก็บ CO₂ อย่างถาวรและสร้างดินในพื้นที่เขตร้อนขึ้นมาใหม่ โครงการร่วมมือกับเกษตรกรเพื่อโรยผงหินซิลิกาที่ปลอดภัยในสภาพแวดล้อมแบบร้อนชื้น ส่งผลให้การสลายของแร่ธาตุเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมและทำให้ลดปริมาณ CO₂ เร็วขึ้นด้วย ปัจจุบัน ทีมงานกำลังพัฒนาสถานีตรวจติดตามเพื่อสร้างข้อมูลการทดลองภาคสนามสาธารณะที่ช่วยให้โครงการเข้าใจมากขึ้นว่าอัตราการสลายของแร่ธาตุผันแปรไปอย่างไรบ้างในสภาพดินและอากาศแบบร้อนชื้นในพื้นที่ต่างๆ ของบราซิล
การเร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุโดยใช้ผงหินKodama และ Yale Carbon Containment Lab กำลังพิสูจน์แนวคิดการกักเก็บชีวมวลไม้เหลือทิ้งโดยการฝังไว้ในห้องใต้ดินในสภาพที่ปราศจากออกซิเจนเพื่อป้องกันการย่อยสลาย ทีมงานจะทดลองว่าสภาพห้องใต้ดินและสิ่งรบกวนเหนือพื้นดินจะส่งผลต่อความทนทานและความเสี่ยงย้อนกลับอย่างไรบ้าง
การฝังกลบชีวมวลNitricity กำลังสำรวจความเป็นไปได้ในการผสานรวมการขจัดคาร์บอนเข้าไปในกระบวนการแบบใหม่สำหรับการผลิตปุ๋ยแบบเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ใช้ระบบไฟฟ้า โดยกระบวนการนี้จะนำสารประกอบไนโตรเจนที่เป็นกลางทางคาร์บอน หินฟอสเฟต และ CO₂ มารวมเข้าด้วยกันเพื่อผลิตไนโตรเจนฟอสเฟตสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมปุ๋ยและกัก CO₂ ไว้อย่างยาวนานในรูปของหินปูน แนวทางแบบใหม่นี้เป็นวิธีการกักเก็บคาร์บอนต้นทุนต่ำที่เหมาะสำหรับกระแส CO₂ เจือจาง และให้ประโยชน์อีกประการหนึ่งควบคู่กัน นั่นคือ ลดการสร้างคาร์บอนในอุตสาหกรรมปุ๋ย
การกักเก็บ - การเปลี่ยนแร่ธาตุบนผิวดินAspiraDAC กำลังสร้างระบบดักจับอากาศโดยตรงแบบแยกส่วนที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ โดยมีแหล่งจ่ายพลังงานติดตั้งอยู่บนโมดูล สารดูดซับแบบโครงข่ายโลหะ−สารอินทรีย์ในระบบดังกล่าวใช้อุณหภูมิต่ำในการทำความร้อน และอาจเป็นแนวทางที่ช่วยให้ค่าวัสดุถูกลง นอกจากนี้ ระบบแบบแยกส่วนยังเอื้อต่อการนำไปทดลองในขอบเขตที่กว้างขึ้นด้วย
การดักจับคาร์บอนในอากาศโดยตรงกระบวนการสลายของแร่ธาตุในธรรมชาติสามารถดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปริมาณหลายกิกะตัน Lithos ช่วยเร่งกระบวนการดังกล่าวโดยโรยผงหินบะซอลต์ในพื้นที่เพาะปลูกเพื่อเพิ่มปริมาณคาร์บอนอนินทรีย์ที่สามารถละลายน้ำได้ภายในดิน เทคโนโลยีของบริษัทใช้โมเดลดินแบบใหม่และการเรียนรู้ของเครื่องจักรมาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ พร้อมทั้งเร่งการเติบโตของพืช ปัจจุบัน ทีมงานกำลังขยายขอบเขตการยืนยันในเชิงประจักษ์ เครือข่ายแม่น้ำ และการศึกษาเนื้อเยื่อพืช เพื่อพัฒนาแนวทางการวัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ขจัดออกจากพื้นที่และผลกระทบต่อระบบนิเวศ
การเร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุโดยใช้ผงหินTravertine กำลังรื้อปรับกระบวนการผลิตทางเคมีเพื่อขจัดคาร์บอน โดยใช้กระบวนการไฟฟ้าเคมีในการผลิตกรดซัลฟิวริกเพื่อนำมาเร่งกระบวนการสลายของหางแร่จากเหมืองอัลทราเมฟิก ซึ่งจะปล่อยธาตุที่สามารถเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศให้กลายเป็นแร่คาร์บอเนตที่มีความเสถียรตามมาตรธรณีกาลได้ กระบวนการดังกล่าวจะเปลี่ยนของเสียในเหมืองแร่ให้กลายเป็นแหล่งทรัพยากรเพื่อการกำจัดคาร์บอน อีกทั้งยังเป็นวัตถุดิบสำหรับเทคโนโลยีการเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดอย่างเช่นแบตเตอรี่ด้วย
การเร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุโดยใช้ผงหินRepAir ใช้ไฟฟ้าสะอาดมาดักจับ CO₂ ในอากาศโดยใช้เซลล์ทางไฟฟ้าเคมีแบบใหม่ และได้ร่วมมือกับ Carbfix เพื่อกักเก็บและเปลี่ยน CO₂ ใต้พื้นดินให้กลายเป็นแร่ธาตุ ประสิทธิภาพการใช้พลังงานในขั้นตอนการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ของ RepAir นั้นโดดเด่นมากและยังคงก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ แนวทางดังกล่าวยังอาจช่วยให้เรามีวิธีการกำจัดคาร์บอนที่ใช้ต้นทุนต่ำ ซึ่งจะช่วยลดความกดดันในการผลิตไฟฟ้าลงได้
การดักจับคาร์บอนในอากาศโดยตรงโครงการนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง 8 Rivers กับ Origen และจะช่วยเร่งกระบวนการเปลี่ยนรูปของคาร์บอนในธรรมชาติโดยใช้ปูนขาวที่ไวต่อปฏิกิริยามาสัมผัสกับอากาศโดยรอบเพื่อดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แร่คาร์บอเนตที่เกิดจะถูกทำให้ร้อนขึ้นเพื่อสร้างกระแสก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้มข้นและนำมากักเก็บไว้ใต้พื้นพิภพ แล้วหมุนเวียนเป็นวัฏจักรต่อเนื่อง ซึ่งการใช้วัสดุราคาไม่แพงบวกกับการใช้ระยะเวลาไม่นานในแต่ละรอบทำให้แนวทางนี้มีศักยภาพในการดักจับคาร์บอนด้วยราคาย่อมเยาในระดับที่สูงขึ้น
การดักจับคาร์บอนในอากาศโดยตรงLiving Carbon ต้องการถอดรหัสพันธุกรรมสาหร่ายที่สามารถผลิตสปอโรพอลเลนินได้อย่างรวดเร็ว สปอโรพอลเลนินคือโพลิเมอร์ชีวภาพที่มีความทนทานสูง สามารถตากแห้ง เก็บเกี่ยว และจัดเก็บไว้ได้นาน การวิจัยเบื้องต้นมีเป้าหมายเพื่อทำความเข้าใจแนวคิดของอุตสาหกรรมเกี่ยวกับความทนทานของสปอโรพอลเลนินมากขึ้น รวมถึงสายพันธ์ุสาหร่ายที่ผลิตสารนี้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการนำเครื่องมือทางชีววิทยาแบบสังเคราะห์มาใช้ถอดรหัสระบบในธรรมชาติเพื่อสร้างวัสดุดักจับคาร์บอนที่แข็งแร่งทนทานและดีกว่าเดิม อาจพัฒนากลายเป็นแนวทางกำจัดคาร์บอนที่มีต้นทุนต่ำและนำไปใช้งานในสเกลที่ใหญ่ขึ้นได้
ชีววิทยาสังเคราะห์44.01 เปลี่ยน CO₂ เป็นหินและใช้ประโยชน์จากพลังงานธรรมชาติของแร่ธาตุ เทคโนโลยีของพวกเขาจะฉีด CO₂ เข้าไปในเพอริโดไทต์ซึ่งเป็นหินที่พบได้จำนวนมาก และกักเก็บ CO₂ ไว้อย่างถาวร วิธีการดังกล่าวสามารถนำไปใช้ประโยชน์ร่วมกับเทคโนโลยีการกักเก็บอื่นๆ ได้อีกมากมาย
การกักเก็บ - การเปลี่ยนแร่ธาตุทางธรณีวิทยาEbb Carbon ลดผลกระทบจากปรากฏการณ์ทะเลกรดไปพร้อมๆ กับการดักจับ CO₂ เมื่อใช้เยื่อบางๆ และความรู้ด้านเคมีไฟฟ้า Ebb ก็สามารถนำกรดออกจากมหาสมุทรและเพิ่มความสามารถทางธรรมชาติโดยการดึง CO₂ ออกมาจากอากาศเพื่อกักเก็บไว้เป็นไบคาร์บอเนตจากมหาสมุทร
การเพิ่มสภาพความเป็นด่างของน้ำในมหาสมุทรEion เร่งการผุกร่อนของแร่ธาตุโดยการผสมหินซิลิเกตเข้าไปในดิน เมื่อเกษตรกรและชาวไร่นำผลิตภัณฑ์อัดเม็ดนี้ไปใช้ก็จะช่วยเพิ่มคาร์บอนในดินได้ และเมื่อเวลาผ่านไปคาร์บอนเหล่านั้นจะไปอยู่ที่มหาสมุทรและรวมตัวกันเป็นไบคาร์บอเนตอย่างถาวร นอกจากเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาแล้ว Eion ก็ยังทำการศึกษาวิจัยดินเพื่อพัฒนาการวัดการดูดซึม CO₂ ในพื้นที่เพาะปลูก
การเร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุโดยใช้ผงหินSustaera ใช้คอนแทกเตอร์ส่งผ่านอากาศที่ทำจากก้อนเซรามิคเพื่อดักจับ CO₂ โดยตรงจากอากาศและนำไปเก็บไว้ในที่เก็บถาวรใต้ดิน ระบบดักจับอากาศโดยตรงของบริษัททำงานโดยใช้พลังไฟฟ้าที่ไร้คาร์บอนและสร้างด้วยส่วนประกอบพิกัด ซึ่งทำให้ผลิตได้ไวและใช้ได้ผลในขอบเขตที่กว้าง
การดักจับคาร์บอนในอากาศโดยตรงSeachange ใช้ประโยชน์จากพลังงานและขนาดที่กว้างขวางของมหาสมุทรทั่วโลกเพื่อจัดการกับการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ที่เพิ่มขึ้นในทุกมุมโลก โครงการนี้ทดลองกระบวนการทางไฟฟ้าเคมีโดยการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์จากน้ำทะเลไว้ในรูปของเกลือคาร์บอเนต ซึ่งเป็นสารที่ไม่มีปฏิกิริยาทางเคมีคล้ายกับเปลือกหอยทั่วไป ทำให้สามารถขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างถาวรและประหยัดพลังงาน
การเพิ่มสภาพความเป็นด่างของน้ำในมหาสมุทรRunning Tide ขยายกระบวนการขจัดคาร์บอนธรรมชาติในทะเลเปิด ทุ่นของบริษัททำมาจากผลิตผลพลอยได้จากการทำป่าไม้ที่เต็มไปด้วยคาร์บอน เคลือบด้วยวัสดุคาร์บอนเนตแล้วหว่านด้วยสาหร่ายขนาดใหญ่ ทุ่นลอยจะเพิ่มความเป็นอัลคาไลน์ของมหาสมุทรและขยายพันธุ์สาหร่ายขนาดใหญ่ก่อนที่จะจมชีวมวลลงสู่ทะเลลึก แนวทางที่ปรับขยายได้นี้ขับเคลื่อนด้วยการสังเคราะห์แสง กระแสน้ำในมหาสมุทร และแรงดึงดูดของโลก
การทำให้ชีวมวลจมปกติแล้วก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะรวมตัวกับแร่ธาตุด้วยวิธีการทางเคมี จากนั้นจะเปลี่ยนเป็นหินอย่างถาวรเมื่ออิงตามเวลาทางธรณีวิทยา Heirloom กำลังสร้างโซลูชันดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศโดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศโดยรอบภายในเวลาไม่กี่วันแทนที่ต้องใช้เวลาหลายปี จากนั้นจะสกัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเพื่อนำไปกักเก็บไว้ใต้ดินอย่างถาวร
การดักจับคาร์บอนในอากาศโดยตรงMission Zero ขจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศด้วยวิธีการทางไฟฟ้าเคมี จากนั้นจะเพิ่มความเข้มข้นเพื่อกักเก็บคาร์บอนอย่างถาวรในหลายๆ วิธี กระบวนการทดสอบในอุณหภูมิห้องของโครงการนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าแบบหมุนเวียนและมีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะขจัดคาร์บอนได้ในปริมาณมาก ทั้งยังมีใช้ต้นทุนต่ำเนื่องจากใช้อุปกรณ์ที่นำมาประกอบกันจากวัสดุที่มีอยู่แล้ว
การดักจับคาร์บอนในอากาศโดยตรงกระบวนการของ CarbonBuilt จะเปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เจือจางแล้วเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตทันที และเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลดคาร์บอนเพิ่มเติมจากวิธีการแบบดั้งเดิม แพลตฟอร์มเทคโนโลยีของ CarbonBuilt ถือเป็นโซลูชันที่สร้างประโยชน์และขยายขอบเขตสำหรับจัดเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างถาวร และเป็นองค์ประกอบสำคัญของระบบขจัดคาร์บอนในอนาคตที่ใช้การดักจับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศโดยตรง
การกักเก็บ - การเปลี่ยนแร่ธาตุบนผิวดินUNDO กระจายหินบะซอลต์ที่ถูกบดบนพื้นที่ทำการเกษตรเพื่อช่วยเร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุโดยใช้ผงหินในธรรมชาติ CO₂ ที่ละลายในน้ำฝนจะทำปฏิกิริยากับหินกลายเป็นแร่ธาตุแล้วถูกกักเก็บอย่างปลอดภัยในระยะเวลาทางภูมิศาสตร์เป็นคาร์บอนเนต ทีมกำลังทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการและในพื้นที่จริงเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมว่ากระบวนการสลายของแร่ธาตุโดยใช้ผงหินเป็นเทคโนโลยีจากธรรมชาติที่สามารถขจัดคาร์บอนได้อย่างถาวรและขยายขนาดได้
การเร่งกระบวนการสลายของแร่ธาตุโดยใช้ผงหินClimeworks ใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพซึ่งสามารถหมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ได้และความร้อนจากของเสียมาดักจับ CO₂ จากอากาศโดยตรง แล้วทำให้เข้มข้นจากนั้นจึงนำไปแยกไว้ใต้ดินอย่างถาวรโดยรวมเข้ากับหินบะซอลต์ด้วย Carbfix แม้จะอยู่ในช่วงต้นๆ ของการดำเนินการในขอบเขตที่ใหญ่ขึ้น แต่นี่ก็เป็นวิธีที่ถาวร วัดได้ง่าย และในทางทฤษฎีแล้ว วิธีการนี้สามารถทำได้โดยแทบไม่มีขีดจำกัด
การดักจับคาร์บอนในอากาศโดยตรงCarbonCure จะอัด CO₂ เข้าไปในคอนกรีตสดซึ่งจะทำให้ก๊าซแปลงเป็นแร่ธาตุและเก็บไว้ในนั้นอย่างถาวร ในขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มแรงกดให้กับคอนกรีต ปัจจุบันหน่วยงานนี้หา CO₂ ที่ปล่อยเป็นของเสียมาจากที่อื่น แต่ถือเป็นเทคโนโลยีแพลตฟอร์มที่ดูมีอนาคตที่ดีสำหรับการจัดทำที่เก็บ CO₂ อย่างถาวรอันเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับระบบขจัดคาร์บอนในอนาคต
การกักเก็บ - การเปลี่ยนแร่ธาตุบนผิวดินProject Vesta ดักจับ CO₂ โดยใช้แร่ธาตุโอลิวินซึ่งเป็นธาตุที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติและมีอยู่มากมาย คลื่นในมหาสมุทรจะบดโอลิวินให้มีขนาดเล็กลงซึ่งเป็นการเพิ่มผิวสัมผัส เมื่อโอลิวินแตกออก ธาตุนี้จะจับ CO₂ ในบรรยากาศจากในมหาสมุทรแล้วทำให้แข็งตัวกลายเป็นหินปูนอยู่ที่ก้นทะเล
การเพิ่มสภาพความเป็นด่างของน้ำในมหาสมุทรCharm Industrial ได้สร้างกระบวนการใหม่ที่ล้ำหน้าสำหรับการเตรียมและอัดฉีดน้ำมันชีวภาพเข้าไปในที่เก็บทางธรณีวิทยา น้ำมันชีวภาพนี้ผลิตขึ้นมาจากมวลชีวภาพและคงรักษาคาร์บอนส่วนใหญ่ที่ถูกพืชดักจับตามธรรมชาติ การฉีดน้ำมันเข้าไปในที่เก็บทางธรณีวิทยาที่ปลอดภัยจะทำให้คาร์บอนอยู่ในที่เก็บนั้นอย่างถาวร
การกำจัดน้ำมันชีวภาพ